รองฯวีรัตน์นึกอยากได้ไว้ปีนป่ายซ่อมรอบบ้านเล็กๆน้อยๆ
แต่ราคามันแพงเอาการ เลยได้คุยกันนาน คนขายเอา
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐมาเปิดให้ดูว่าคุณแม่ลูกจันทน์เขา
ลงข่าวว่าอำเภอชุมพลบุรี นั้นถูกสำรวจพบว่ามีบ่อน้ำมัน
แต่รายละเอียดยังไม่ค่อยมีอะไรมาก
เลยสืบค้นข้อมูลกันใหญ่ หนึ่งในนั้นก็ที่หนังสือพิมพ์แนวหน้า
แต่ก็ยังไม่เห็นรายละเอียดมากมายนัก ก็ถือว่าอ่านเล่นกันก็แล้วกัน
จริงๆเราก็อยากทราบว่า natural gas มันเกิดได้อย่างไร มีคุณประโยชน์
หรือมีข้อเสียอย่างไร มากกว่า เรายังไม่รู้อะไรเลย ใครทราบหรือ
อยากให้ข้อมูลคนชุมพลฯก็ช่วยบอกด้วยคงดีไม่ใช่น้อย
รายละเอียดในแนวหน้ามีดังนี้ :-
![]() |
ชาวบ้านหวั่นมลพิษ พลังงานชี้แค่สำรวจ ผู้สื่อข่าว แนวหน้า ประจำจังหวัดสุรินทร์ รายงานเมื่อวันที่ 11 มกราคมว่า ขณะนี้กำลัง เป็นที่ฮือฮาอย่างมากกรณีมีข่าวสำรวจพบบ่อน้ำมันกลาง ทุ่งกุลาร้องไห้ บริเวณพื้นที่ บ้านโคกกลาง หมู่ที่ 15 ต.ชุมพลบุรี อ.ชุมพลบุรี จ.สุรินทร์ ซึ่งบริษัทรับสัมปทาน ได้เตรียม ตั้งแท่นขุดเจาะหลุมแรก ส่งผลให้ ราคาที่ดินในพื้นที่ที่คาดว่าจะมีการสำรวจ พบแหล่งน้ำมัน มีราคาพุ่งกระฉูดขึ้นทันทีท่ามกลางความหวั่นวิตกของประชาชน ส่วนหนึ่งที่เห็นว่าผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมกำลังจะเกิดขึ้น กระทรวงพลังงาน ได้กำหนดดำเนินโครงการ เจาะหลุมปิโตรเลียม แปลงสำรวจบนบก หมายเลข L 31/50 ซึ่งมีบริษัท ซ่านซี เหยียนฉาง ปิโตรเลี่ยม (กรุ๊ป) จำกัด เป็นผู้รับ สัมปทานและมีแผนดำเนินการเจาะสำรวจปิโตรเลี่ยม โดยได้มอบหมายให้ บริษัท ทอพ - คลาส คอนซัลแทนท์ จำกัด เป็นผู้ศึกษาและจัดทำรายงานการ วิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม ในแปลงสำรวจขุดเจาะน้ำมัน ซึ่งเป็นที่แปลงนา กินพื้นที่ กว่า 10 ไร่ ในเขต เทศบาล ชุมพลบุรี เทศบาลทุ่งศรีชุมพล และตำบลศรีณรงค์ มีหลักธงสีขาว ติดป้ายบริษัท ซ่านซี เหยียนฉาง ปิโตรเลี่ยม 1905 (กรุ๊ป) จำกัด เป็น ผู้สำรวจ ซึ่งได้ดำเนินการสำรวจมา ตั้งแต่ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2554 ที่ผ่านมา และคาดว่าพื้นที่ ดังกล่าวจะมีน้ำมัน อย่างแน่นอนแล้ว ซึ่งทางบริษัท ทอพ-คลาส คอนซัลแทนท์ จำกัด จัดทำรายงานการ วิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม จะทำการศึกษาในรัศมี 5 กิโลเมตรต่อหลุม กล่าวว่า ทางบริษัท ซ่านซี เหยียนฉาง ได้มาทำการสำรวจพื้นที่ การขุดเจาะน้ำมัน โดยได้ระเบิดในพื้นที่แปลงนาเพื่อตรวจศึกษาวิเคราะห์พื้นที่ที่คาดว่าจะมีน้ำมัน และ ตั้งแท่นขุดเจาะน้ำมัน และได้วัดระยะพื้นที่รอบๆ ที่เจาะน้ำมันออกไป รัศมี 5 กิโลเมตร กินพื้นที่ ถึง 10 กิโลเมตร ความยาว กว่า 2 กิโลเมตร ซึ่งชาวบ้านส่วนหนึ่งก็ตื่นเต้น จะมีบ่อน้ำมันในพื้นที่ จะทำให้ที่ดินมีราคา สูงขึ้น ในพื้นที่ ขณะนี้ก็กำลังทำประชาพิจารณ์กันอยู่ ว่าประชาชนในพื้นที่ 3 ตำบล จะเห็นด้วย หรือไม่ แต่อย่างไรก็ตาม ประชาชนเป็นห่วงผลกระทบ ที่จะเกิดขึ้น ตามมาหากมีการ ตั้งแท่นขุดเจาะน้ำมัน และเมื่อวันที่ 9 ม.ค. 2555 เจ้าหน้าที่ ของบริษัท ซ่านซี เหยียนฉาง กว่า 10 คน ก็ได้เดินทางเข้ามายังแปลง ที่ทำ การสำรวจขุดเจาะน้ำมันที่บ้านโคกกลาง คาดว่าเป็นการวางแผนเพื่อตั้งแท่น ขุดเจาะน้ำมันในเร็วๆ นี้ ทำประชาพิจารณ์กับประชาชนทั้งสามตำบล ซึ่งเท่าที่ฟังขณะนี้ประชาชนยังกังวล เรื่องมลภาวะสิ่งแวดล้อมที่จะตามมา โดยเฉพาะพื้นที่ทุ่งกุลาร้องไห้ อ.ชุมพลบุรี เป็นที่ปลูกข้าวหอมมะลิของโลก ที่มีชื่อเสียง สร้าง รายได้ให้ประชาชนผู้ปลูกข้าว หอมมะลิ ในแต่ละปีเป็นอย่างมาก หากมีการขุดเจาะน้ำมัน หวั่นว่า นาข้าวหอมมะลิ ทุ่งกุลาร้องไห้ชุมพลบุรี จะหายไป ชุมพลบุรี คาดว่าจะมีน้ำมันอย่างแน่นอน ซึ่งมีประชาชนบางคนได้เตรียมที่ดินให้ บริษัท สำรวจน้ำมันในราคาไร่ละ 300,000 บาท ในขณะที่บางรายต้องการขาย ไร่ละ 1,000,000 บาท และก็มีเสียงชาวบ้าน ขุดเจาะน้ำมันได้ก็จะดูดขึ้นไป กลั่นที่โรงกลั่นน้ำมันที่ จ.ระยอง ประชาชนในพื้นที่ จะเดือดร้อนเพราะมลภาวะที่เกิดขึ้น ซึ่งยังต้องทำ ประชาพิจารณ์ รับฟังความเห็น ของประชาชน ทุกฝ่าย จนกว่าจะได้ข้อสรุป พื้นที่สำรวจครอบคลุม4จังหวัด มหาสารคาม ร้อยเอ็ด บุรีรัมย์ และสุรินทร์ มีพื้นที่ รวม 3,960 ตารางกิโลเมตร โดย ทำการเจาะสำรวจ 3 หลุมเจาะในพื้นที่หมู่ที่ 8 บ.หนองไทร ต.หนองขมาร อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ หมู่ที่ 15 บ.โคกกลาง ต.ชุมพลบุรี อ.ชุมพลบุรี จ.สุรินทร์ และหมู่ที่ 4 บ.หนองสรวง ต.สระบัว อ.แคนดง จ.บุรีรัมย์ กรมเชื้อเพลิงยันยังไม่พบน้ำมัน กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีการตรวจพบว่ามีแหล่งน้ำมัน ในแปลงสัมปทานบนบก หมายเลข L 31/50 ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ มหาสารคาม ร้อยเอ็ด และ สุรินทร์ ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ของทุ่งกุลาร้องไห้ เนื่องจากบริษัทที่ได้รับสัมปทาน เมื่อวันที่ 25 ก.พ. 2553 ยังอยู่ในขั้นตอนของการศึกษาธรณีวิทยา โดยใช้วิธีวัด ความเคลื่อนไหวสั่นสะเทือนแบบ 2 มิติ เท่านั้น ยังไม่ได้มีการขุดเจาะจริง และที่ผ่านมา ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือยังไม่มีโอกาสได้เห็นแหล่งน้ำมัน แบบชัดเจน แล้วจะต้องเตรียม จัดทำรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมมีการทำประชา พิจารณ์กับชุมชนเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งคาดว่า กว่าจะแล้วเสร็จจะอยู่ในช่วงกลางปีนี้ หลังจากนั้นจึงจะเริ่มขุดเจาะหลุมแรก เพราะเป็นการคาดเดาว่าจะมีแหล่งน้ำมัน และ ที่ผ่านมาแปลงสัมปทานฯ หลายพื้นที่ที่ ได้รับอนุมัติไปก็ไม่พบทั้งน้ำมันและก๊าซ ผู้ได้รับสัมปทานคงไม่ใช้วิธีซื้อที่ดินในบริเวณนั้นๆ แต่จะเป็นการเช่ามากกว่า ยกเว้นมีการสำรวจ ขุดเจาะ และจะเริ่มผลิตจริง จึงจะซื้อที่ดินแบบถาวร |
ที่มา http://www.naewna.com/news.asp?ID=296066 |

ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น