เตรียมความพร้อมสู่ประชาคมอาเซียน

 

[06/06/2555] นางสาวจุไรรัตน์ แสงบุญนำ รองปลัดกระทรวงศึกษาธิการเป็นวิทยากรร่วมเสวนาเรื่อง “การเตรียมความพร้อมสู่ประชาคมอาเซียน”โดยมีพระธรรมภาวนาวิกรม รองเจ้าอาวาสวัดไตรมิตรวิทยาราม วรวิหาร และประธานมูลนิธิร่มฉัตร เป็นประธานในพิธีเปิด เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2555 ณ ห้องประชุมใต้พระมหามณฑป วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร กรุงเทพมหานคร


http://www.ops.moe.go.th/moeweb/html/mod_cms/view.php?JS=dDVpMngwcDNtT3fwTERtSWcmdDdpT3jwcERtSXd1TG5tZWdNdF9pU3hK
         นางสาวจุไรรัตน์ แสงบุญนำ รองปลัดกระทรวงศึกษาธิการเป็นวิทยากรร่วมเสวนาเรื่อง “การเตรียมความพร้อมสู่ประชาคมอาเซียน” โดยมีพระธรรมภาวนาวิกรม รองเจ้าอาวาสวัดไตรมิตรวิทยาราม วรวิหาร และประธานมูลนิธิร่มฉัตร เป็นประธานในพิธีเปิด เมื่อวันที่ ๖ มิถุนายน ๒๕๕๕ ณ ห้องประชุมใต้พระมหามณฑป วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร กรุงเทพมหานคร
          การเสวนาเรื่องการเตรียมความพร้อมสู่ประชาคมอาเซียน เป็นกิจกรรมในโครงการพัฒนาต้นแบบสาธิตชุมชนวัดไตรมิตรวิทยาราม วรวิหาร ในการเตรียมความพร้อมสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างมูลนิธิร่มฉัตรและสำนักงานส่งเสริมสังคมแห่งการเรียนรู้ (สสค.) ที่ได้จัดขึ้นเพื่อส่งเสริมศักยภาพของคนไทยและเตรียมความพร้อมในการเป็นพลเมืองอาเซียน โดยมี นางสาวจุไรรัตน์ แสงบุญนำ รองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ นายพิษณุ เหรียญมหาสาร อดีตรองปลัดกระทรวงพาณิชย์ ดร.อมรวิชช์ นาครทรัพย์ ที่ปรึกษาวิชาการสำนักงานส่งเสริมสังคมแห่งการเรียนรู้และคุณภาพเยาวชน และนายวิศิษฏ์ ลิ้มประนะ ประธานสภาชุมชนเยาวราช ร่วมเสวนา และมีนายสุภาพ คลี่ขจาย เป็นผู้ดำเนินการเสวนา
          รองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ได้กล่าวในโอกาสนี้ว่า กระทรวงศึกษาธิการได้เตรียมความพร้อมเพื่อเข้าสู่ประชาคมอาเซียน โดยใช้ยุทธศาสตร์เชิงรุกในการสร้างและส่งเสริมทักษะทางด้านภาษา เพื่อรองรับสู่การเป็นพลเมืองอาเซียน ภายในปี ๒๕๕๘ ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการได้ส่งเสริมทักษะทางภาษาโดยจ้างครูอาสาชาวจีนและชาวต่างประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษเข้ามาสอนภาษาให้กับนักเรียนไทยในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการในจังหวัดต่างๆทั่วประเทศ ส่งผลให้นักเรียนมีความรู้ทางด้านภาษาและใช้ภาษาในการสื่อสารได้เป็นอย่างดี
           รองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวต่อว่า ครูต้องเป็นผู้ส่งเสริมให้เด็กไทยมีความกล้าในการพูดภาษาอังกฤษ อย่าเขินอายในการสื่อสาร ส่งเสริมให้มีการฝึกพูดตลอดเวลาและต่อเนื่อง อีกทั้งต้องเรียนรู้ในวัฒนธรรมของประเทศเพื่อนบ้าน ให้รู้ทั้งความเป็นเขาและเราให้มากขึ้น
           “เมื่อเกิดการรวมตัวเป็นประชาคมอาเซียนในปี ๒๕๕๘ จะมีการเคลื่อนย้ายแรงงานอย่างเสรีใน ๗ กลุ่มวิชาชีพ คือ แพทย์ ทันตแพทย์ พยาบาล วิศวกร นักสำรวจ นักบัญชี สถาปนิก รวมทั้งสาขาการท่องเที่ยว ส่งผลให้สมาชิกของประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาทำงานในประเทศไทยมากขึ้น กระทรวงศึกษาธิการในฐานะแหล่งผลิตกำลังคนของประเทศต้องเร่งสร้างบุคลากรที่มีคุณภาพ มีความรู้ ทักษะทางภาษาให้พร้อมแข่งขันกับประเทศเพื่อนบ้าน อีกทั้งส่งเสริมการเรียนสายอาชีพให้มากขึ้น เพราะตลาดแรงงานอาเซียนต้องการคนมีความรู้ทางด้านวิชาชีพเป็นจำนวนมาก เพื่อใช้เป็นฐานกำลังในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศต่อไป”รองปลัดกระทรวงศึกษาธิการกล่าว
             หลังจากนั้น พระธรรมภาวนาวิกรม ได้นำผู้ร่วมงานเข้าเยี่ยมชม “ห้องเรียนอาเซียน”ในโรงเรียนมหาวีรานุตร ซึ่งเป็นแหล่งเรียนรู้ทางภาษา และวัฒนธรรมของประเทศสมาชิกอาเซียน แก่นักเรียนและคนในชุมชน
ธมกร/ข่าว